เมื่อถึงเวลาต้องพาธุรกิจมาลุยตลาดออนไลน์ ช่องทางเปิดร้านที่หลายคนมักนึกถึงก็คือ โซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ควบคู่กัน แต่ปัญหาคือ ร้านส่วนใหญ่ไม่กล้าลงทุนกับเว็บไซต์ เพราะกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายแพง ใช้งานยาก และอื่นๆ ทั้งที่ช่องทางนี้มีประโยชน์มากมาย เช่น เสริมความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายจาก SEO เป็นต้น บทความนี้จึงขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ ‘WooCommerce คืออะไร’ ตัวช่วยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้กลายเป็นร้านออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพ แต่ใช้งานง่าย พร้อมแนะนำเทคนิคเกี่ยวกับการใช้งานที่ทุกท่านควรรู้
หัวข้อสำคัญ
1. ทำความรู้จัก ‘WooCommerce’ คืออะไร
ปกติแล้วเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์จะมี 3 แบบ คือ
- 1) ร้านออนไลน์สำเร็จรูป (ใช้งานง่าย แต่มีข้อจำกัดด้านการปรับแต่ง)
- 2) เว็บไซต์เขียนเอง (ปรับแต่งได้อย่างอิสระ แต่ต้องมีงบประมาณจ้างมืออาชีพเขียน)
- 3) เว็บไซต์ในลักษณะ platform Woocommerce คือ หนึ่งในเว็บไซต์ลักษณะนี้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
Woocommerce / WordPress เป็น Opensource ที่เป็นที่มีอิสระการการปรับแต่งได้สูงไม่มีข้อจำกัด เหมือนร้านออนไลน์สำเร็จรูป และมีปัญหาน้อยกว่าการเขียนเว็บไซต์เอง เพราะงั้น WooCommerce ก็คือ ปลั๊กอินสำหรับติดตั้งบน WordPress ให้พร้อมเปลี่ยนจากเว็บไซต์ธรรมดามาเป็นหน้าร้านค้าออนไลน์ตอบโจทย์การใช้งานแพลตฟอร์มแบบอีคอมเมิร์ซได้แบบมืออาชีพเบื้องหลังร้านค้าออนไลน์ชื่อดังมากมายที่จัดเต็มเรื่องฟีเจอร์และการยกระดับคุณภาพการให้บริการร้านค้า โดยมีจุดเริ่มต้นมาจาก Mike Jolley และ James Koster ทำปลั๊กอินเลียนแบบ JigoShop ก่อนจะฮิตมากจนบริษัท Automattic ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ WordPress ต้องรีบเข้าซื้อกิจการ ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลด (ข้อมูลเดือน กุมภาพันธ์ 2566) กว่า 230 ล้านครั้ง การันตีว่า WooCommerce กำลังเป็นโซลูชั่นอีคอมเมิร์ซแบบโอเพ่นซอร์สที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดย Ecommerce website ทั้งโลก สร้างจาก Woocommerce ถึง 36.68%
ที่มา: Statista
2. เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ WooCommerce
สงสัยกันไหมว่า เพราะอะไรทำไมผู้คนหรือกิจการส่วนใหญ่ถึงนิยมเลือกใช้ WooCommerce มาเป็นตัวช่วยปั้นเว็บไซต์หน้าร้านออนไลน์ เดี๋ยวเราจะมาบอก 7 เหตุผลที่ร้านค้าออนไลน์ต่างเลือกใช้ WooCommerce กัน ดังนี้
- 1) ระบบหลังบ้านใช้งานง่าย
ระบบหลังบ้านของ WooCommerce เข้าใจง่าย และ ใช้งานได้ง่าย เมื่อเปรียบเทียบกับ platform อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสินค้า หมวดหมู่สินค้า การตรวจสอบคำสั่งซื้อต่าง ๆ และการ setting ค่าต่างๆ ในระบบ - 2) เป็นระบบ Plugin ที่สามารถใช้บน WordPress/Woocommerce ได้อย่างดีเยี่ยม
เชื่อว่า ทุกท่านคงเคยได้ยินข้อดีของการใช้งาน WordPress มาแล้วมากมาย อีกหนึ่งข้อได้เปรียบของ WooCommerce คือ การใช้งานแบบระบบโมดูลาร์เพิ่มส่วนขยาย extensions ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ให้สวยงาม เพิ่มความโดดเด่นให้รายละเอียดสินค้า การจัดระบบข้อมูลซื้อขาย การคำนวณราคาตามตัวเลือกขนส่ง ฯลฯ เหมือนมีพนักงานคนเก่งคอยให้บริการเป็นทีม (ทั้งที่ความจริงแล้วคุณอาจทำงานคนเดียว) และใช้ร่วมกับธีมบน WordPress ได้อย่างดีเยี่ยม (บางตัวอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็ต้องเช็กก่อนใช้กันอีกครั้ง) แถมไม่ต้องกลัวว่า ระบบจะไม่ยอมรับการใช้งานปลั๊กอินหรือเกิดปัญหา เพราะมีการพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานได้ดี ไม่มีสะดุด รวดเร็วไหลลื่นสุดๆ - 3) เข้าถึงลูกค้า เพิ่มโอกาสสร้างยอดขายได้มากขึ้น
แม้โซเชียลมีเดียจะเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ลูกค้าใช้งานกันตลอดเวลา แต่การมีหน้าร้านอีคอมเมิร์ซบน WordPress / Woocommerce จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าที่ใช่ได้ง่ายขึ้นจากการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ ทั้งการเลือกโฮสติ้ง, ธีม, ปลั๊กอิน และจัดวางเนื้อหาให้เหมาะสม เพราะลูกค้ามักจะต้องใช้ Search Engine ก่อนตัดสินใจซื้อเสมอ - 4) ยกระดับคุณภาพของร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพ
มากกว่าการสร้างความน่าเชื่อถือคือ WooCommerce เป็นหนึ่งในตัวช่วยยกระดับคุณภาพให้ร้านค้าออนไลน์สามารถให้บริการขายสินค้าได้อย่างมืออาชีพจากฟีเจอร์โดดเด่น ดังนี้
– WooCommerce Payments รองรับการชำระเงินทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะบัตรเครดิต กระเป๋าเงินออนไลน์ การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือเงินสด ผ่านช่องทางกว่า 100+ แห่ง ทั้งยังรองรับการชำระเงินกว่า 135 สกุลทั่วโลก
– ระบบคำนวณบัญชีอัตโนมัติ ลดความซับซ้อนและผิดพลาดเกี่ยวกับการจัดการด้านภาษี
– กำหนดตัวเลือกการจัดส่ง หากอยู่ในสหรัฐอเมริกาจะมีความพิเศษที่สามารถพิมพ์ฉลากและกำหนดเวลาเข้ารับสินค้าบน WooCommerce Shipping ได้โดยตรง
– เลือกธีมแบบพรีเมียมหรือสร้างด้วยตัวเองให้โดดเด่นกว่าร้านอื่นได้ - 5) ระบบหลังบ้านและทีมพัฒนาขั้นเทพ
ทีมที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ WooCommerce คือ หนึ่งในทีมบริษัทแม่ของ WordPress เพราะงั้นผู้ใช้งานสามารถมั่นใจเรื่องระบบหลังบ้านและทีมพัฒนามืออาชีพได้เลยว่า จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการความช่วยเหลือ เพื่อพัฒนาหรือแก้ปัญหาในส่วนไหนก็พร้อมซัพพอร์ตทุกความต้องการ แถมยังมีระบบหลังบ้านที่ทรงพลัง ไม่ว่าจะระบบการวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูล (Analytics Report), ระบบ CMS และอื่นๆ ส่งเสริมการสร้างยอดขายขั้นสุด และที่สำคัญคือ อัปเดตเสริมจุดแข็ง กลบจุดด้อยตลอด (เพราะงั้นผู้ใช้งานอาจแบ่งเวลาเข้าไปอัปเดตบ่อยๆ ด้วย) - จัดการร้านค้าได้ทุกที่ทุกเวลานอกจากการใช้งาน WooCommerce จะไม่ยุ่งยากแล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถจัดการร้านค้าออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่าน WooCommerce Mobile App รวมถึงมีระบบแจ้งเตือนรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องกลัวพลาดทุกการอัปเดต!
3. ตัวอย่างเทคนิคการใช้ WooCommerce ที่ทุกร้านควรรู้
มากกว่า 7 เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ WooCommerce อีกเรื่องที่เราอยากบอกต่อก็คือ 6 ตัวอย่างเทคนิคการใช้ WooCommerce ที่ทุกร้านควรรู้ เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้นว่า ระบบนี้ไม่ใช่เซลล์เพจหรือเว็บร้านค้าสำเร็จรูปแบบทั่วไป แต่ใช้งานได้มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสสร้างความประทับใจให้กลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า เช่น
- 1) เติมส่วนขยายด้วย Table Rate Shipping for WooCommerce เพื่อตั้งค่าการจัดส่งให้มีความหลากหลาย โดยคำนวณจากระยะทาง, น้ำหนักหรือขนาดของพัสดุ เป็นต้น รวมถึงหากสินค้าบางประเภทต้องมีการจัดส่งแบบพิเศษ เช่น เปราะบางแตกหักง่าย เป็นต้น ก็สามารถเพิ่มค่าจัดส่งตามความเหมาะสมในแต่ละชิ้นได้
- 2) สร้างส่วนลดปิดจบการขายได้ง่ายและไวขึ้น ด้วย Pricing Deals for WooCommerce สร้างเปอร์เซ็นต์ส่วนลดทั่วไป (Percentage discount),ส่วนลดจำนวนคงที่ใช้กับกลุ่มหรือรายบุคคล (Fixed cart discount), ราคาแพ็กเกจตามยอดขั้นต่ำการสั่งซื้อ (Usage restriction) และเงื่อนไขส่วนลด สินค้าที่ถูกที่สุด / แพงที่สุด / เท่ากับหรือน้อยกว่า เพื่อช่วยในการตัดสินใจของลูกค้า
- 3) ลงสินค้าได้ถึง 4 รูปแบบ ทั้ง Simple Product (ลงสินค้ารายชิ้น), Grouped product (ลงสินค้าเป็นหมวดหมู่), External/Affiliate product (รองรับการหารายได้แบบนายหน้า) และ Variable product (ลงสินค้าประเภทเดียวกัน แต่ราคาต่างกันตามคุณสมบัติ)
- 4) เลือกธีมได้หลากหลาย มีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน แต่แนะนำให้เลือกแบบเสียเงินจะรองรับการปรับแต่งได้ยืดหยุ่นและปลอดภัยมากกว่า เพราะทีมพัฒนาจะปรับแต่งอัปเดตการใช้งานให้มีประสิทธิภาพกันตลอดเวลา
- 5) ปรับแต่งการใส่รายละเอียดได้แบบเต็มที่ เช่น
– ตั้งแถบรายละเอียดข้อมูล โดยใช้ Custom Product Tabs for WooCommerce
– ใส่สีราคาให้โดดเด่นจากเนื้อหาปกติทั่วไป
– ซ่อนข้อมูลสินค้าที่ยังไม่พร้อมจัดจำหน่ายและจัดเรียงสินค้าได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดได้เอง เช่น วันที่ลงสินค้า เก่า-ใหม่ล่าสุด, ตัวอักษรตัวแรก, สินค้าแนะนำ เป็นต้น
– แสดงรายการสินค้าแนะนำในหมวดหมู่เดียวกัน - 6) ไม่ใช่แค่เว็บไซต์จัดเต็ม แต่เว็บไซต์หน้าเดียวก็ใช้ WooCommerce ได้
ไม่ใช่แค่กลุ่ม SME หรือธุรกิจขนาดใหญ่ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์รายย่อยก็มีหน้าร้านเป็นของตัวเองได้ ด้วยการสร้างเว็บไซต์หน้าเดียวที่ตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าเซลล์เพจทั่วไป ใส่ฟีเจอร์การทำงานได้หลากหลายไม่แพ้เว็บไซต์ใหญ่ เช่น
– Advance Search & filter search เสิร์ชหาสินค้าที่ใช่
– Search engine optimization รองรับการทำ SEO มีแค่หน้าเดียวก็เพิ่มโอกาสติดอันดับ search engine ได้ง่ายขึ้น
– ทำการตลาดผ่าน Promotion & Coupon code และรองรับการยิง Ads ในทุกรูปแบบ
– Analytics Report เก็บข้อมูลการวัดผล เพื่อนำไปใช้ต่อยอดการทำการตลาดให้ประหยัด แต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. Package ราคา woocommerce
Package 1: Sale page by woocommerce สำหรับร้านเล็ก ถึง กลาง ที่เน้นการสร้างไวทันใจ เน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่เน้นดีไซน์จัด และจำนวนสินค้าไม่เกิน 1,000 sku เพิ่มโอกาสปิดการขายอย่างรวดเร็วและต่อยอดให้ร้านค้าสร้างกำไรในระยะยาว เริ่มต้นเพียง 7,900 บาทเท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลย
Package 2: Full Woocommerce website สำหรับร้านค้าขนาดกลาง ถึง ใหญ่ ที่เน้นการสร้าง branding เน้นความโดดเด่นของ design และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลย
หลังจากทุกท่านได้อ่านบทความนี้จนจบจะต้องตอบคำถามคลายความสงสัยได้อย่างแน่นอนว่า หากกำลังวางแพลนจะเปิดร้านค้าออนไลน์จะต้องนึกถึง WooCommerce เพราะฟังก์ชั่นตอบโจทย์ แถมฟีเจอร์ครอบคลุมทุกความต้องการ ตอบโจทย์กิจการทุกประเภท และรองรับการจำหน่ายสินค้าทุกรูปแบบขนาดนี้ ต้องไม่พลาด WooCommerce โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาเว็บไซต์โดยเฉพาะจาก ipeak ที่พร้อมพัฒนาให้หน้าร้านของคุณดีไซน์สวยโดดเด่น ใช้งานง่ายและรวดเร็ว ใส่จัดเต็มในทุกฟังก์ชัน ติด SEO เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าและสร้างยอดขายในระยะยาว พร้อมทดสอบระบบก่อนส่งงานและปรึกษาฟรี!
หลังจากรู้รายละเอียด ภาพรวม ของ woocommerce แล้วมาดู ปัจจัยของราคาในการสร้าง woocommerce กันครับ Woocommerce ราคา